หางาน Part - time

แผนและรายได้ของ aim star
เนื้อหาส่วนนี้จะมาแนะนำแผนธุรกิจของ Aim Star Network ที่เรียกว่า Star Matching Plan ครับ จะมีจุดเด่นมาก ๆ ของแผนดังนี้
 แผนธุรกิจเข้าใจง่ายมาก ไม่ซับซ้อน ลงทุนน้อย
 ทำง่าย สร้างแค่ 2 สายงาน ไม่ต้องมีเพื่อนมากก็สามารถทำธุรกิจได้
 มีระบบช่วยเหลือสายงานทางลึก ที่เรียกว่าระบบ Placement เน้นทำงานเป็นทีม
 เน้นเครือข่ายบริโภคที่แท้จริง ไม่ได้เน้นไปขายเพื่อสร้างยอดส่วนตัวสูง ๆ
 รายได้แซงกันได้ มาก่อนมาหลังไม่เกี่ยวกัน อยู่ที่ความตั้งใจและความขยัน
 บริษัทมีระบบการจัดการธุรกิจทางเวปไซต์ ทำให้การทำธุรกิจสะดวกยิ่งขึ้น เราสามารถตรวจสอบธุรกิจของเราจากที่ใดก็ได้ในโลก ขอแค่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้
 ไม่ใช่เครือข่ายการขาย ไม่ใช่เครือข่ายลูกโซ่ แต่เป็น “เครือข่ายแห่งการเรียนรู้” เราศึกษาและเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอก็สำเร็จได้
เรามาดูเงื่อนไขการทำธุรกิจ Aim Star กันก่อนครับ มีเพียง 3 ข้อเท่านั้นครับ
1. สมัครสมาชิก 300 บาท เราจะมีสถานะเป็น MB (Member) สิ่งหลัก ๆ ที่เราจะได้คือ
 คู่มือทำธุรกิจ Aim Star Network 1 ชุด ได้แก่ ชุดสมัคร แคตาล๊อกสินค้า คู่มือนักธุรกิจ นิตยสาร One World
 ประกันอุบัติเหตุ PA 100,000 บาท (กรณีสมัครร่วม จะได้คนละ 50,000 บาท)
2. เปลี่ยนสถานะจาก Member เป็น นักธุรกิจที่เรียกว่าตำแหน่ง SV (Supervisor) ก่อนโดย
 มียอดซื้อส่วนตัว ภายในเดือนไหนก็ได้นับตั้งแต่สมัคร ให้มียอดรวม 1,000 PV หรือประมาณ 3,000 บาท ยอดนี้สามารถสะสมได้ภายในเดือน ไม่จำเป็นต้องซื้อครั้งเดียว
 เมื่อเป็น SV แล้วไม่จำเป็นต้องทำข้อ 2 นี้อีกต่อไป (ทำครั้งเดียวตลอดชีวิต)
3. รักษาสถานะการรับรายได้ โดยการซื้อสินค้าซ้ำในแต่ละเดือน อย่างน้อย 300 PV (ประมาณ 900 บาท) หากเดือนใดยอดไม่ถึง 300 PV ก็จะไม่มีสิทธิรับรายได้ในเดือนนั้น ก็ไม่ได้มีการบังคับยอดกันนะครับ
สรุปเงื่อนไข มีเพียง 3 ข้อ ลงทุนเบื้องต้นประมาณ 3,300 บาท เพื่อรับรายได้ทั้งหมด 6 ทาง
แผนธุรกิจนี้ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างรายได้ 10,000 – 30,000 บาท / เดือนได้ภายในระยะเวลา 1 – 3 เดือนและสามารถสร้างรายได้มากกว่า 100,000 บาท / เดือนได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 – 2 ปี ครับ
ก่อนจะพูดแผน ผมจะสรุป Concept การทำธุรกิจ ดังนี้ครับ เรายอมรับและปฏิบัติตาม Concept ที่กล่าวมานี้ ก็ีมีรายได้หลักแสนต่อเดือนภายใน 1 ปีแน่นอน น่าสนใจมากใช่มั๊ย
1. เปลี่ยนที่ซื้อสินค้า จากที่อื่นมาเป็นที่เอมสตาร์ เดือนละประมาณ 900 บาท ก็เป็นสินค้าที่เราซื้อกินซื้อใช้กันอยู่แล้ว แค่โยกเงินก้อนนั้นมาที่นี่ก็เสร็จแล้ว
2. แนะนำเพื่อนซัก 2 คนมาร่วมธุรกิจ เพียงมาเปลี่ยนที่ซื้อสินค้า (หรือจะแนะนำมากกว่านี้ก็ได้)
3. พาตัวเอง เข้าเรียนรู้ระบบ
สำหรับรายได้ทั้ง 6 ข้อของธุรกิจ Aim Star Network มีดังนี้ครับ
1. ส่วนลดราคาสมาชิก (หรือเรียกว่ากำไรขายปลีก) 20-30เปอร์เซ็น
2. ส่วนลดส่วนตัว 20เปอร์เซ็น (หรือเรียกว่าโบนัสสมาชิก) โดยคิดจากยอดส่วนตัวเราที่เกิน 1,000 PV
3. ค่าแนะนำ (โบนัสสาขา) 20เปอร์เซ็น (ไม่เกิน 1,000 PV)
4. Basic Bonus 30เปอร์เซ็น (รายได้จากการสร้างองค์กร)
5. Matching ชั้นลูก 10เปอร์เซ็น (รายได้จากการช่วยเหลือทีมงาน)
6. Matching ชั้นหลาน 5เปอร์เซ็น (รายได้จากการช่วยเหลือทีมงาน)

ต่อไปเราจะมาทำความเข้าใจรายได้ทั้ง 6 ข้อกัน

1. ส่วนลดราคาสมาชิก (กำไรขายปลีก) 20-30เปอร์เซ็น
ข้อนี้ง่ายมากครับ เราสมัครสมาชิกเราก็สามารถมีรายได้จากข้อ 1 แล้ว ก็คือเราได้ซื้อสินค้าในราคาสมาชิกนั้นเอง ว่าแต่มีเพื่อน ๆ คนไหนชอบขายของบ้างมั๊ย ถ้าชอบก็สามารถมีรายได้ข้อนี้ได้นะครับ หรือถ้าไม่ได้ขายเราก็ได้กำไรจากส่วนลดสมาชิก
ยกตัวอย่าง เราซื้อน้ำมันรำข้าว ราคาสมาชิก 750 บาท ไปขายในราคาปกติ 900 บาท เราก็จะได้กำไรทันที 150 บาท หรือถ้าซื้อแบบ Family Pack ก็ตกขวดละ 550 บาท ขายปลีกได้กำไรขวดละ 350 บาท
ส่วนตัวผมเองไม่ได้ชอบขาย ผมเลยไม่ค่อยมีรายได้จากข้อนี้เท่าไหร่ เราข้ามไปดูข้ออื่นดีกว่า
2. โบนัสสมาชิก 20เปอร์เซ็น ที่เกินจาก 1,000 PV
สมาชิก ก็คือเรานั่นเองครับ หากเรามียอดส่วนตัว เกินกว่า 1,000 PVยอดที่เกินมาจาก 1,000 PV นั้น บริษัทฯ จะปันผลกลับให้เราอีก 20เปอร์เซ็น เลยครับ
ตัวอย่างเช่นเรามียอดส่วนตัวในเดือน 1,500 PV ซึ่งเกินม 1,500-1,000 = 500 PV บริษัทก็จะปันผลให้เรา 500 x 20เปอร์เซ็น = 100 บาท เปรียบเสมือน ยิ่งซื้อมาก ยิ่งลดมาก ลดแล้วลดอีก ว่างั้นสังเกตุว่ารายได้ทั้งข้อ 1-2 นี่เป็นรายได้จากเราคนเดียวล้วน ๆ เลย ยังไม่ได้มีการสร้างเครือข่ายแต่อย่างใดก็สามารถมีรายได้แล้ว
ส่วนรายได้ข้อ 3-6 จะเป็นรายได้จากการที่เรามีองค์กรแล้วครับ มาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
3. ค่าแนะนำ (โบนัสสาขา) 20เปอร์เซ็น (ไม่เกิน 1,000 PV)
เมื่อเราเห็นสินค้าดี หรือธุรกิจดี ถ้าเราแนะนำเพื่อน ๆ มาสมัคร เราก็จะได้ค่าแนะนำโดยบริษัทจะปันผลให้เราจากยอดการสั่งซื้อสินค้าของเพื่อน เรา 20เปอร์เซ็น (บริษัทจ่ายให้เรา ไม่ได้ไปเอาจากเพื่อนเรานะ) แต่ไม่เกิน 1,000 PV (หรือ 200 บาท/คน) โดยที่เราจะแนะนำกี่คนก็ได้ ใครแนะนำคนนั้นได้ ไม่ว่าเขาจะอยู่ตำแหน่งไหนขององค์กร (คนที่เราแนะนำ ในธุรกิจเอมสตาร์จะเรียกว่าลูก)
แผน Star Matching เป็นแผนแบบ 2 ขา ดังนั้น หากสายงานเรามีครบทั้งสองข้างแล้ว ถ้ามีคนสนใจสมัครร่วมธุรกิจกับเราอีก เราก็เอาไปต่อข้างล่าง ช่วยเหลือทีมงาน (ซึ่งเราเรียกว่าระบบ Placement) โดยที่เขาคนนั้นก็ยังมีสถานะเป็นลูกเราเหมือนเดิมนะครับ แม้ว่าจะไม่ได้ต่อติดตัวเรา เราก็ยังได้ค่าแนะนำเหมือนเดิม มาดูตัวอย่างครับ



star matching plan member bonus aimstar แผนสร้างรายได้ เงินแสน
เราจะได้รายได้ข้อนี้ก็ต่อเมื่อ สาขา (ลูก) ของเรามียอดการซื้อสินค้าเกิดขึ้น บริษัทก็จะจ่ายปันผลให้กับเรา 20เปอร์เซ็น ของยอดบริโภคของลูกเรา แต่จะปันผลให้ไม่เกิน 1,000 pv หรือ 200 บาท ครับ ใครแนะนำเพื่อนมากได้มาก แนะนำน้อยได้น้อย ตัวอย่างเช่น
สมมติเราชวนเพื่อน ๆ มาร่วมธุรกิจด้วยกัน 4 คนคือ A, B, C, D ต่างมียอดการซื้อผลิตภัณฑ์ส่วนตัวเป็นดังนี้
A มียอดส่วนตัว 1,000 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 1,000 x 20เปอร์เซ็น = 200 บาท
B มียอดส่วนตัว 300 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 300 x 20เปอร์เซ็น = 60 บาท
C มียอดส่วนตัว 900 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 900 x 20เปอร์เซ็น = 180 บาท
D มียอดส่วนตัว 1,200 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 1,000 x 20เปอร์เซ็น = 200 บาท (คิดสูงสุดที่ไม่เกิน 1,000 PV หรือ 200 บาท)
รวมรายได้ที่เราจะได้รับในข้อนี้ทั้งหมด 640 บาท
เราจะพบว่าแค่เราแนะเพื่อน ๆ เรามาเปลี่ยนที่ซื้อสินค้าจากที่อื่นมาซื้อที่เอมสตาร์ เราก็มีรายได้แล้วใช่มั๊ยครับ ถ้าเพื่อน ๆ เราเห็นเรามีรายได้ เขาเองก็อยากมีรายได้ด้วยใช่มั๊ยครับ เค้าก็ไปชวนเพื่อน ๆ ของตัวเองมาทำธุรกิจร่วมกัน แนะนำกันคนละ 1 คน 2 คน ไปเรื่อย ๆ เวลาผ่านไป ก็สามารถขยายเป็นเครือข่ายบริโภคขึ้นมาครับ เราก็จะมีรายได้ในข้อที่ 4 ดังนี้
4. Basic Bonus 30เปอร์เซ็น (รายได้จากการสร้างทีมงาน)
เมื่อธุรกิจเราเริ่มเดินหน้า มีการสร้างเครือข่ายขึ้นมาแล้ว เราก็จะมียอดธุรกิจเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งซ้าย และฝั่งขวา โดยบริษัทฯ จะปันผลให้เราโดยคิดจาก 30เปอร์เซ็น ของยอดธุรกิจรวมด้านที่มีคะแนนน้อยกว่าครับ (ยอดธุรกิจในข้อนี้จะนับรวมทุก คนที่อยู่ในองค์กรเรา ไม่ว่าใครจะเป็นคนแนะนำมาเราก็นับหมด และนับลึกไม่จำกัดชั้นครับ)
เราดูตัวอย่างการคิดรายได้ข้อนี้นะครับ

star matching plan member bonus aimstar แผนสร้างรายได้ เงินแสน
จากตัวอย่าง ยอดธุรกิจรวมด้านที่น้อยคือด้านซ้าย มียอดธุรกิจทั้งหมด 100,000 PV และด้านขวามียอดธุรกิจรวม 120,000 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผลที่ 30เปอร์เซ็น ของด้านน้อยคือ 30เปอร์เซ็น x 100,000 = 30,000 บาทครับ
เมื่อ Balace แล้วยอดธุรกิจฝั่งขวายังมีคะแนนเหลือ 120,000 – 100,000 = 20,000 PV ทางบริษัทฯ จะโอนไปคิดรายได้เดือนถัดไปครับ ไม่ได้เริ่มใหม่หมดจากศูนย์ ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ายุติธรรมมาก ๆ เลย
รายได้ข้อนี้บริษัทฯ จะจ่ายปันผลให้เราสูงสุด 792,000 บาทครับ
5. Matching ชั้นลูก 10เปอร์เซ็น จากยอด Balance ลูกทุกคน
รายได้ข้อนี้ เป็นผลมาจากการช่วยเหลือให้ ลูก (คนที่เราแนะนำมา) มีรายได้ในข้อ 4 (Basic Bonus 30เปอร์เซ็น ) ได้ ทางบริษัทฯ ก็จะจ่ายปันผลให้กับเราอีก 10เปอร์เซ็น จากยอด Balance ด้านน้อยของลูกเราทุก ๆ คนครับ งานนี้ลูกมากยิ่งรวยแล้วครับ ไม่ใช่ลูกมากยากจน เรามาดูตัวอย่างการคิดรายได้ข้อนี้กันครับ

star matching plan member bonus aimstar แผนสร้างรายได้ เงินแสน
จากตัวอย่าง เรามีลูกทั้งหมด 4 คนคือ A, B, C, D และแต่ละคนมียอดธุรกิจตามที่แสดงในผัง เราจะมีรายได้ดังนี้
A = 40,000 x 10เปอร์เซ็น = 4,000 บาท
B = 0 x 10เปอร์เซ็น = 0 บาท (เนื่องจากยอดด้านน้อยเป็นศูนย์ เพราะมีสายงานข้างเดียว)
C = 30,000 x 10เปอร์เซ็น = 3,000 บาท
D = 40,000 x 10เปอร์เซ็น = 4,000 บาท
รวมมีรายได้ทั้งหมด 11,000 บาท
รายได้ข้อนี้บริษัทฯ จะจ่ายปันผลให้เราสูงสุด 312,000 บาท/ลูก 1 คนครับ แสดงว่าใครลูกเยอะ รายได้ก็เยอะตามครับ ยังครับ ยังไม่พอ บริษัทเอมสตาร์ ยังมีรายได้ข้อสุดท้ายอีกครับ
6. Matching ชั้นหลาน 5เปอร์เซ็น จากยอด Balance หลานทุกคน
หลานก็คือคนที่ลูกเราแนะนำมาครับ เราจะมีหลานกี่คนก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าลูกของเราไปแนะนำเพื่อนมาทำธุรกิจด้วยกันกี่คน ถ้าลูกเราสามารถช่วยเหลือให้หลานเรารายได้ในข้อ 4 (Basic Bonus 30เปอร์เซ็น ) ได้ ทางบริษัทฯ ก็จะจ่ายปันผลให้กับเราอีก 5เปอร์เซ็น จากยอด Balance ด้านน้อยของหลานเราทุก ๆ คนครับ

star matching plan member bonus aimstar แผนสร้างรายได้ เงินแสน
จากตัวอย่าง ให้วงกลมสีชมพู เป็นหลานของเรา ซึ่งก็คือคนที่ลูกของเรา (A,B,C,D) ชวนมาร่วมธุรกิจด้วย หากเราและลูกเราช่วยเหลือและสอนหลานของเราให้สามารถมีรายได้ เราก็จะมีรายได้เช่นกันครับ โดยบริษัทฯ จะปันผลให้เรา 5เปอร์เซ็น ของยอด Balance (ด้านน้อย) ของหลานทุก ๆ คนเลยครับ ยิ่งมีหลานมาก ยิ่งได้มากครับ
ผมจะยกตัวอย่างการคำนวณให้ดูคร่าว ๆ นะครับ
หลานคนที่ 1 มียอดธุรกิจด้านน้อย 20,000 PV เราจะได้ปันผล 20,000 x 5เปอร์เซ็น = 1,000 บาท
หลานคนที่ 2 มียอดธุรกิจด้านน้อย 30,000 PV เราจะได้ัปันผล 3o,ooo x 5เปอร์เซ็น = 1,500 บาท
และคิดแบบเดียวกันนี้กับหลานทุก ๆ คนครับ
รายได้ข้อนี้บริษัทฯ จะจ่ายปันผลให้เราสูงสุด 156,000 บาท/หลาน 1 คนครับ แสดงว่าใครหลานเยอะ รายได้ก็เยอะตามครับ
ในส่วนของรายได้ข้อ 5-6 นี้ ถือเป็นไฮไลท์ของแผนเลยครับ ถ้าเราช่วยให้เพื่อนเรามีรายได้ เราก็ย่อมมีรายได้ตาม ยิ่งเพื่อนเราหลายคน หลานเราหลายคน รายได้ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ ถ้าเราทำสำเร็จในขั้นตอนนี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่ หยุดทำก็ยังมีรายได้ ครับถึงเราจะไปพักร้อนเที่ยวต่างประเทศซักเดือน แต่ผลจากการสร้างเครือข่ายที่ให้ทีมงานเรามีรายได้ บริษัทฯ ก็ยังปันผลมาให้เราด้วย สรุปคือรายได้ 2 ข้อสุดท้ายนี่คือรายได้ที่จะสร้างความมั่นคงในระยะยาว และเป็นรายได้ที่มากที่สุดในระยะยาว เห็นแบบนี้ยิ่งทำให้เราอยากจะช่วยเหลือเพื่อน ๆ ของเราให้มีรายได้จริงมั๊ยครับ
เห็นแนวคิดของธุรกิจแล้ว เราว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากจริงมั๊ยครับ แรก ๆ เราก็มีทีมงานไม่มาก แต่ผ่านไปเป็นเดือน เป็นปี ก็มีโอกาสที่จะมีทีมงานขยายเป็นเครือข่าย และสามารถสร้างรายได้ให้เราอย่างยั่งยืนได้ เราไม่ต้องรู้จักคนเยอะก็ทำธุรกิจได้ เราไม่ต้องมีประสบการณ์ก็สามารถทำได้ เรามีทุนไม่มากก็สามารถทำได้ ผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากเลยสำหรับคนที่กำลังมองหาโอกาส หรือเครื่องมือใหม่ ๆ ที่จะพาชีวิตเราไปสู่เ